เลือกอาหารคนท้องอย่างไร? ให้ปลอดภัยต่อลูกในท้อง
PREGNANCY-010-MOM Mom
เลือกอาหารคนท้องอย่างไร??ให้ปลอดภัยต่อลูกในท้อง??
การเลือกอาหารสำหรับคนท้อง คุณแม่ท้องอาจจะต้องคิดหนักเพราะมักจะคิดว่าจะกินอะไรดีที่ลูกในท้องจะไม่มีอันตราย ซึ่งอย่าลืมว่าแม่กินอะไรลูกน้อยก็จะได้กินอย่างนั้นตามไปด้วย การเลือกอาหารสำหรับคนท้องสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสารอาหารบำรุงสมองลูกที่คุณแม่จะต้องกินตั้งแต่เริ่มรู้ตัวว่าท้อง ซึ่งอาหารที่คุณแม่กินเข้าไปจะส่งผลถึงลูกโดยตรง โดยเฉพาะสมองของลูกเป็นอวัยวะที่สำคัญที่จะเริ่มมีการพัฒนาตั้งแต่อยู่ในท้องของคุณแม่ เซลล์สมองจะทำงานและเจริญเติบโตได้ดี ก็ต่อเมื่อคุณแม่ท้องกินอาหารที่มีประโยชน์
โปรตีน และโอเมก้า 3
อาหารจากโปรตีนจะมีกรดอะมิโน (ไทโรซีน) มีอยู่ในเนื้อสัตว์ ไข่ และ อาหารทะเล เมื่อร่างกายได้รับแล้วจะทำให้สมองมีความตื่นตัว ช่วยลดอาการซึมเศร้า ส่วนโอเมก้า 3 พบได้มาก ในเนื้อปลาทู หรือปลาช่อน การนำเนื้อปลามาประกอบอาหาร ด้วยการ นึ่ง หรืออบ จะทำให้ลูกน้อยในครรภ์ได้ประโยชน์อย่างมาก ซึ่งคุณแม่ท้องควรทานอาหารจากเนื้อปลาในมื้ออาหารหลักๆ เพื่อบำรุงไขมันในเซลล์สมองของลูก
วิตามินซี และวิตามินบี
วิตามินซีหาได้จาก ผักและผลไม้สด ซึ่งคุณแม่ท้องสามารถกินวิตามินซีที่มาจากผลไม้สดๆ ซึ่งจะช่วยทำให้เซลล์สมองแข็งแรง และช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง ทำให้มีสมาธิดีและมีการตัดสินใจที่เร็วและเด็ดขาด ในหนึ่งมื้อ ควรทานผักหรือผลไม้ให้ได้ โดยอาจจะเลือกกิน ส้มหรือฝรั่ง รวมถึงสลัดผลไม้ หรือสลัดผักสักจาน ส่วนวิตามินบี 12 จะช่วยเรื่องการบำรุงระบบประสาทที่จะช่วยเรื่องความจำ และสมองให้แข็งแรงพบในเนื้อสัตว์ อย่างเนื้อหมู
อาหารสำหรับคนท้องประเภท อะเซทิลโคลีน
สารอะเซทิลโคลีน อยู่ในขนมปังโฮลวีตและข้าวซ้อมมือ ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งของอาหารสำหรับคุณแม่ท้อง ซึ่งจะทำให้สมองของลูกน้อยทำงานได้ดี มีระบบประสาทที่ช่วยเชื่อมโยงเซลล์สมองที่ดี เพื่อที่สมองจะได้ทำการส่งข้อมูลได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว ยังส่งผลทำให้ระบบต่างๆในสมองทำงานได้ดีตามไปด้วย ซึ่งคุณแม่ท้องควรทานอาหารบำรุงสมองลูกเพราะจะช่วยให้ลูกฉลาดได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์เลยทีเดียว
*ข้อมูลมีลิขสิทธิ์เจ้าของโดย บริษัท แอน เมทเทอนิตี้ จำกัด ( ร้าน MamyAnn ) ไม่อนุญาตให้คัดลอกข้อมูล ไปเผยแพร่ต่อในเชิงพาณิชย์ ไม่ว่าวิธีใด ๆ หากฝ่าฝืน ทางบริษัทฯจะดำเนินการตามกฎหมาย เว้นแต่คุณแม่ที่ต้องการแชร์ หรือบันทึกเรื่องนี้ เพื่อการเรียนรู้ อันนี้ไม่มีความผิด